วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555



xiwang1.jpg

xiwang3.jpg

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน หนังสือ พิมพ์ไชน่าเดลี่รายงานเรื่องราวสุดสะเทือนใจของพ่อแม่ชาวจีน ซึ่งกำลังร่ำไห้จูบลูกสาววัย 2 ขวบเป็นครั้งสุดท้าย

ก่อนที่จะนำเธอไปผ่าตัดเพื่อนำตับและไตไปบริจาคเพื่อต่ออายุให้กับผู้ป่วย เด็กอีก 2 คน หลังจากที่ลูกสาวใกล้จะสิ้นลมเนื่องจากป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด

รายงานระบุว่า เหตุสะเทือนใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.30 น. ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองชื่อเฟิง เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน หนูน้อย ซีวั่ง (แปลว่า ความหวัง) วัย 2 ขวบ ป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด ต้องความทุกข์ทรมานเข้า-ออกโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน และเสียค่ารักษาแล้วมากกว่า 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท)

ในที่สุดแพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของหนูน้อยซีวั่งได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะพ่อแม่ได้ตัดสินใจนำตับไตของลูกสาวไปบริจาคเพื่อต่อลมหายใจให้กับเด็กคนอื่น ๆ โดย ก่อนที่แพทย์จะนำหนูน้อยเข้าห้องผ่าตัด พ่อแม่และญาติต่างก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจ พร้อมกับจูบร่ำลูกสาวอย่างอาลัยอาวรณ์ในวาระสุดท้ายของเธอ
xiwang2.jpg

xiwang4.jpg xiwang5.jpg xiwang6.jpg 

ทั้งนี้ หวังเสี่ยวเฟย แม่ของหนูน้อยระบุด้วยว่า เรากลั้นใจบริจาคอวัยวะของลูกให้กับเด็กคนอื่นแทนที่จะนำศพลูกสาวไปประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา ดังนั้นพวกเราจึงตั้ง ชื่อให้กับลูกว่า ซีวั่ง แปลว่าความหวัง ซึ่งก็หมายความว่า ลูกสาวได้สร้างความหวังในชีวิตให้กับเด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังรอรับความช่วยเหลืออยู่

ขณะนี้อวัยวะที่บริจาคได้ช่วยเหลือชีวิตเด็ก 2 คนที่โรงพยาบาลเทียนจินซึ่งมีอาการปลอดภัยดีแล้ว โดยครอบครัวของผู้ได้รับบริจาครู้สึกตื้นตันใจอย่างสุดซึ้งสำหรับการบริจาค อวัยวะของหนูน้อยซีวั่งในครั้งนี้

นอกจากนี้ หลังจากที่มีผู้ทราบเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ ก็มีชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเห็นใจและต้องการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ ครอบครัวของเด็กน้อย แต่พวกเขาก็ปฏิเสธ พร้อมกับระบุว่า พวกเขายังหนุ่ม-สาว และสามารถทำมาหาเลียงชีพได้ด้วยตนเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากผู้อื่น และสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น

ที่มา : kapook.com

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน


ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน


สถานที่ท่องเที่ยว อ.เชียงกลาง จ.น่าน

อำเภอเชียงกลาง
วัดหนองแดง ตำบลเปือ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๓๓๐ โดยชาวไทลื้อร่วมกับไทพวน องค์พระประธานสร้างโดยครูบาสิทธิการ พระวิหารบูรณะครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒ และบูรณะต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ ภายในวัดมีลานกว้างร่มรื่น ช่อฟ้าพระอุโบสถสลักรูปนกหัสดีลิงค์ (เป็นนกในวรรณคดีมีจะงอยปากยาวคล้ายงวงช้าง) ซึ่งชาวไทลื้อเชื่อว่าเป็นสัตว์ชั้นสูงจากสวรรค์ เชิงชายประดับไม้ฉลุลายน้ำหยาด ซึ่งเป็นลวดลายเฉพาะของชาวไทลื้อ องค์พระประดิษฐานบนฐานชุกชี เรียกว่า นาคบัลลังก์ จากความเชื่อที่ว่านาคเป็นเครื่องหมายแห่งความสง่างาม ความดี และเป็นอารักษ์แห่งพระพุทธศาสนา วัดหนองแดงได้รับรางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม (ภาคเหนือ) รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๔๗
การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๐ ถึงที่ว่าการอำเภอเชียงกลาง เลยที่ว่าการอำเภอฯ ไป ๒ กิโลเมตรจนถึงสี่แยกรัชดา และเห็นป้อมตำรวจบ้านรัชดาให้เลี้ยวซ้ายไป ๑ กิโลเมตร
น้ำตกตาดม่าน ตั้งอยู่บ้านวังทอง หมู่ที่ 3 ตำบลพระพุทธบาท ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 11 กิโลเมตร มีทางรถยนต์ซึ่งเป็นถนนคอนกรีต สภาพน้ำตก มีลักษณะเป็นชั้นหิน สลับซับซ้อนลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เป็นจำนวน 6 ชั้น บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 30 เมตร มีแอ่งน้ำ ที่เหมาะแก่การแหวกว่ายเล่นน้ำชั้นที่ 2 มีความสูงประมาณ 50 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก สำหรับน้ำตกทั้ง 6 ชั้น มีชื่อเรียกกันตั้งแต่อดีตดังนี้ ตาดม่าน ผาคันไถ ผาหัวช้าง ผาจ้อม ตาดลิง และตาดหมอก (ห้วยหก)
พระพุทธบาทจำลอง (พระบาทตากผ้า) ตั้งอยู่บ้านเหล่า หมู่ที่ 8 ตำบลพระพุทธบาท ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานเก่าแก่เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะราษฎรตำบลเชียงคนและตำบลพระพุทธบาท มีขาดกว้าง 60 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร เดิมทำมาจากไม้ประดู่ มีอายุประมาณ 200 ปีเศษ
แก่งสะม้าเก้าบั้ง ตั้งอยู่บ้านตึ๊ด หมู่ที่ 10 ตำบลพระพุทธบาท ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 11 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นโขดหิน ลานหินขวางกั้นลำน้ำน่าน ลดหลั่นกันไปถึง 9 ขั้น มีระยะทางยาวถึง 3 กิโลเมตร มีชื่อที่ใช้เรียกกันมาแต่อดีต ดังนี้ 1. แก่งพลายเหล้า 2. แก่งคด 3.แก่งเสือเต้น 4. แก่งผาวัว 5. แก่งสองห้อง 6. แก่งเตา 7. แก่งลืมรอย 8. แก่งผาเสียม และ 9. แก่งผานาง สองฟากฝั่งลำน้ำน่านมีลักษณะเป็นภูเขา และป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ร่มรื่น สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน ตั้งแคมฟ์ค้างแรม สำหรับผู้นิยมการผจญภัย การเดินทางไปได้ 2 ทาง คือ ทางรถยนต์ สามารถนำรถไปจอดไว้ที่จุดพักแก่งพลายเหล้าแล้วเดินทางต่อ และ ล่องแพ ทางลำน้ำน่านไปหยุดพักตรงจุดพัก
พระธาตุดอนแก้ว ตั้งอยู่บริเวณบ้านดอนแก้ว หมู่ที่ 1 ตำบลพระธาตุ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานที่เคารพนับถือเก่าแก่ ของชาวบ้านอำเภอเชียงกลาง โดยเฉพาะราษฎรตำบลเปือและพระธาตุ
ไร่จุฑามาส ริสอร์ท ตั้งอยู่บ้านน้ำอ้อ หมู่ที่ 3 ตำบลเปือ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นที่พักของเอกชน (สวยครับ) โทร. 054-797-044


วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความจริงของชีวิต

มีเรื่องใดน่าโกรธอย่าโทษใคร 
โทษที่ใจเราผิดไม่คิดยั้ง 
พยาบาทโกรธแค้นและชิงชัง 
ในใจสั่งสมไฟไร้ปัญญา 

ไม่พึงใจพอใจใครก็มี 
ความไม่ดีต่างย่อมรู้คู่กันหนา 
โลภ โกรธ หลง มีกิเลสธรรมดา 
แต่อย่าให้..เดินหน้า..นำพาไป 

อภัยได้..อภัย..ให้เขานะ 
เลิกลดละฝึกให้เป็นนิสัย 
อย่าเอาโกรธนำหน้าจะมีภัย 
จองเวรไปไม่มีสุขทุกข์ใจฟรี.. 

ไอที


"สมาร์ทโฟน-แทบเล็ต" โดดเด่นดันคอมมาร์ตคึก-หนุนไอทีโต 15%

ตรวจทัพ “คอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012” ผู้ค้าโหมโปรโมชั่นฟื้นกำลังซื้อหลังวิกฤติน้ำท่วม

เปิดม่านอย่างเป็นทางการกับ “คอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย. 2555 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 
ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Modern Play” หลากเทรนด์ หลายสไตล์ ไปกับโลกไอที งานนี้น่าจับตามอง (เป็นพิเศษ) เพราะเป็นสนามประลองกำลังผู้ค้าอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเจอมรสุมน้ำท่วม ส่งผลกระทบตลาดค้าปลีกไอทีซบยาว ผู้จัดงานครั้งนี้ เชื่อว่า กำลังผลิตได้เริ่มฟื้นกลับคืนมาเกือบเต็ม 100% แล้ว
หวังผู้ชม 7 แสนเงินสะพัด 2 พันล้าน
นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า สถานการณ์ตลาดไอที และราคาสินค้ากลับคืนมาเป็นปกติแล้ว คอมมาร์ตครั้งนี้ผู้ค้าทุกรายจัดโปรโมชั่นเข้าแข่งขันเต็มที่ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 7 แสนราย ยอดเงินสะพัด 2,000-2,200 ล้านบาท ขณะที่ยังต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผู้เล่นระดับอินเตอร์ถึง 3 รายที่มีปัญหาในระดับโลก ทำให้งบการทำตลาดที่เข้ามาลดน้อยลง แต่ทั้งนี้ เปิดโอกาสให้แบรนด์จากประเทศเกาหลีมาแรงมากขึ้น
เขาคาดว่า 5 อันดับสินค้าขายดีครั้งนี้ ได้แก่ 1. โน้ตบุ๊ค 2. แทบเล็ต 3. สมาร์ทโฟน 4. อุปกรณ์สตอเรจ และ 5. พรินเตอร์ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นม้ามืดของงาน ทั้งยังหวังว่างานครั้งนี้จะมีส่วนผลักดันให้ตลาดไอทีเติบโตได้ถึง 14-15%
“พระเอกของงาน คือ สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ซึ่งขณะนี้ มีอยู่ 2 แบรนด์ที่ผูกขาดตลาด คือ ซัมซุงและแอ๊ปเปิ้ลทำให้รายอื่นๆ เหนื่อย แต่ส่งผลดีต่อลูกค้าทำให้ได้ข้อเสนอที่ดีขึ้น”
หวั่นตลาดไอทีซบยาว
อย่างไรก็ตาม เขา มองว่า สถานการณ์ตลาดมีโอกาสซบต่อไปได้อีกยาว เพราะเทคโนโลยีที่เปิดตัวออกมายังไม่ดึงดูดผู้ใช้มากพอ ทำให้อายุการใช้งานสินค้านานขึ้น ลูกค้าหันกลับไปใช้ของเก่ามากกว่าซื้อตัวใหม่ทดแทน ท้ายที่สุด หากตลาดโตแค่ 11-12% ถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง
นายปฐม ตั้งความหวังไว้ว่า ครึ่งปีหลังจะเป็นขาขึ้นของตลาดไอที เนื่องจากช่วงไตรมาสที่ 2 สถานการณ์ตลาดที่เคยซบเซาเริ่มคลี่คลาย ราคาสินค้ากลับมาสู่ภาวะปกติ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้ามารองรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อมากขึ้น 
พร้อมระบุว่า มีอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะฉุดให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ถ้าไม่นิ่งเชื่อว่าจะมีปัญหาแน่นอน
เอปสันอัดโปรกระตุ้นแทงก์แท้
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ไฮไลต์ของเอปสันในงานนี้ คือ โปรโมชั่นส่วนลดแทงก์หมึกของแท้ 1,500 บาท พร้อมส่วนลดพิเศษโปรเจคเตอร์แบบพกพากว่า 40% บริษัทตั้งเป้ากับงานครั้งในแง่นำสินค้าเข้ามาลองเปิดตลาด พร้อมสร้างความตระหนักรู้ และนำเสนอเทคโนโลยีมากกว่ายอดขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานวันแรกคนเดินค่อนข้างบางตา แต่ยอดขายสามารถไหลได้ต่อเนื่อง ผู้ค้าแต่ละรายงัดกลยุทธ์ลดกระหน่ำ โปรโมชั่นแรง ผ่อน 0% พร้อมของแถมสินค้าพิเศษเข้ามาแข่งขันเพื่อเร่งปิดยอดไตรมาสที่ 2 โดย "โน้ตบุ๊ค" ยังครองตำแหน่งสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดของร้าน 
ด้านพื้นที่จัดงานผู้ค้าปลีกบางรายไม่เข้าร่วมด้วย เนื่องจากเป็นงานกลางปี จึงไม่มีงบประมาณ ภายในฮอลล์ซึ่งปกติจะเป็นพื้นที่ของรายใหญ่ มีผู้ค้าปลีกและแบรนด์แทบเล็ตหน้าใหม่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เข้าร่วม ขณะที่ตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับโมบาย ดีไวซ์ทุกชนิดมีลูกค้าเดินเข้าออกไม่ขาดสาย 
อินเทลชู “อัลตราบุ๊ค” เป็นพระเอก
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าคอมมาร์ตจะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดกระแสของอัลตราบุ๊ค ส่วนของอินเทลจะกระตุ้นตลาดด้วย “แพลตฟอร์มอัลตราบุ๊ค” พร้อมต่อยอดแนวทำตลาดด้วยสื่อทุกช่องทาง รวมถึงร่วมมือกับผู้ผลิตทุกรายช่วยเหลือทั้งส่วนงบการตลาด และการจัดกิจกรรมต่างๆ
“อัลตราบุ๊คจะเข้ามาเปลี่ยนโฉมการประมวลผลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้ผลิตรายใดไม่ปรับตัวตามอาจสูญเสียความสามารถการแข่งขันไปได้”
อย่างไรก็ตาม ตลาดเน็ตบุ๊คยังคงอยู่แต่จะเป็นทางเลือกสำหรับตลาดระดับล่างราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่น ก่อนหน้านี้ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5% ของตลาดรวมพีซี ขณะนี้ สัดส่วนยังคงคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ผู้บริหารอินเทล เผยด้วยว่า เฟสถัดไปหรืออัลตราบุ๊คระยะที่ 3 โค้ดเนม “แฮสเวล” ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้น และใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นปัจจุบัน 20 เท่า จะเริ่มประมาณต้นปี 2556